analyticstracking
ผลสำรวจเรื่อง “คนไทยกับการติดตามสถานการณ์น้ำท่วมปี 65 ”
           ประชาชน 75.5% ให้ความสำคัญในการติดตามข่าวสถานการณ์น้ำท่วมในปี 65 มากถึงมากที่สุด
           72.0 % ระบุว่าเห็นการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนให้ประชาชนเฝ้าระวัง และเตรียมพร้อมรับมือ
     น้ำท่วมในปีนี้มากที่สุด
           67.3% กังวลว่าสถานการณ์น้ำท่วมในปีนี้จะทำให้เศรษฐกิจ และ พื้นที่ทำการเกษตรเสียหาย
     ประชาชนขาดรายได้
           พร้อมระบุปีนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการให้ข้อมูล/แจ้งเตือน/แนวทางการบริหารจัดการน้ำได้ดี
     เมื่อเทียบกับประสบการณ์ที่ผ่านมา
 
 
 
ดีมาก (5)
ดี (4)
ปานกลาง (3)
พอใช้ (2)
แย่ (1)
 
 
                  จากสถานการณ์น้ำท่วมในหลายๆ จังหวัดของประเทศไทยขณะนี้ ทำให้
ประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนหลายครัวเรือน กรุงเทพโพลล์โดย มหาวิทยาลัย
กรุงเทพ จึงสำรวจความเห็นประชาชนเรื่อง “คนไทยกับการติดตามสถานการณ์น้ำท่วม
ปี 65”
โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,059 คน พบว่า
 
                  ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 68.7 ติดตามข่าวและการแจ้งเตือน
พายุ น้ำท่วม ที่เกิดขึ้นจากการรายงานข่าวทางโทรทัศน์
รองลงมาร้อยละ 60.8
ติดตามข่าวจากโซเชียลมีเดีย และร้อยละ 11.8 ติดตามข่าวจากญาติ/คนรู้จัก
 
                  ทั้งนี้ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 75.5 ให้ความสำคัญกับการติดตาม
ข่าวสถานการณ์น้ำท่วมปี 65 มากถึงมากที่สุด
ขณะที่ร้อยละ 24.5 ระบุว่าให้ความ
สำคัญน้อยถึงน้อยที่สุด
 
                  เมื่อถามว่าในปีนี้เห็นการเตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วมในปีนี้อย่างไรบ้าง
จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วนใหญ่ร้อยละ 72.0 ระบุว่าเห็นการนำเสนอข่าวของ
สื่อมวลชนให้ประชาชนเฝ้าระวัง และเตรียมรับมือ
รองลงมาร้อยละ 42.6 ระบุว่า เห็น
การยกระดับการแจ้งเตือนภัย การรับรู้ให้แก่ประชาชน และร้อยละ 41.4 ระบุว่า เห็นการ
เตรียมอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัย และสถานที่พักพิง
 
                  ส่วนปัญหาที่กังวลมากที่สุดจากสถานการณ์น้ำท่วมในปีนี้ นั้น ส่วนใหญ่ร้อยละ 67.3 ระบุว่า กลัวว่า
เศรษฐกิจ และ พื้นที่ทำการเกษตรเสียหายประชาชนขาดรายได้
รองลงมาร้อยละ 48.6 ระบุว่า กลัวมีพายุฝนตกซ้ำเติม
ทำให้สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่แย่ลง และร้อยละ 44.2 ระบุว่า กลัวว่าการเยียวยา และฟื้นฟู ผู้ประสบภัยในพื้นที่รับน้ำ
ไม่เพียงพอกับความเสียหายที่เกิดขึ้น
 
                  สำหรับในภาพรวมปีนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการให้ข้อมูล/แจ้งเตือน/แนวทางการบริหารจัดการน้ำ
ได้ดีเพียงใด เมื่อเทียบกับประสบการณ์ที่ผ่านมา พบว่า ร้อยละ 32.4 ระบุว่าทำได้ดีเหมือนเดิม
รองลงมาร้อยละ 29.6
ระบุว่าทำได้ดีขึ้นกว่าเดิม ขณะที่ร้อยละ 24.1 ระบุว่า ทำได้แย่เหมือนเดิม และร้อยละ 13.9 ระบุว่า ทำได้แย่ลงกว่าเดิม
 
 
                  โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
 
             1. ทราบข่าว/ติดตามข่าว การแจ้งเตือน พายุ น้ำท่วม ที่เกิดขึ้นจากที่ใด
                   (เลือกตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)


 
ร้อยละ
การรายงานข่าวทางโทรทัศน์
68.7
โซเชียลมีเดีย
60.8
ญาติ/คนรู้จัก
11.8
ผู้นำชุมชน/อำเภอ/จังหวัด
11.0
รายการวิทยุ
6.2
เว็บไซต์หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมอุตุฯ GISTDA คลังข้อมูลน้ำแห่งชาติ ฯลฯ
5.5
sms เตือนภัยจากกรมอุตุฯ
4.0
แอพลิเคชั่นเตือนภัย
3.8
อื่นๆ อาทิ อยู่ในพื้นที่น้ำท่วม หนังสือพิมพ์ ฯลฯ
0.8
 
 
             2. ท่านให้ความสำคัญกับการติดตามข่าวสถานการณ์น้ำท่วมปี 65 มากน้อยเพียงใด

 
ร้อยละ
มากถึงมากที่สุด
(โดยแบ่งเป็น ให้ความสำคัญมาก ร้อยละ 55.4 และให้ความสำคัญมากที่สุด ร้อยละ 20.1)
75.5
น้อยถึงน้อยที่สุด
(โดยแบ่งเป็น ให้ความสำคัญน้อย ร้อยละ 20.1 และให้ความสำคัญน้อยที่สุด ร้อยละ 4.4)
24.5
 
 
             3. ท่านเห็นการเตรียมความพร้อมรับมือน้ำท่วมในปีนี้อย่างไรบ้างจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
                   (เลือกตอบได้มากกว่า 1ข้อ)


 
ร้อยละ
การนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนให้ประชาชนเฝ้าระวัง และเตรียมรับมือ
72.0
ยกระดับการแจ้งเตือนภัย การรับรู้ให้แก่ประชาชน
42.6
การเตรียมอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัย และสถานที่พักพิง
41.4
การเข้าถึงประชาชน และ ความรวดเร็วด้านความช่วยเหลือ
28.8
เตรียมการรับมือ อพยพประชาชนออกจากพื้นที่ให้ทันท่วงที
27.8
มีการบริหารจัดการน้ำ เส้นทางน้ำ ไม่ให้กระทบพื้นที่เศรษฐกิจ
23.9
 
 
             4. ปัญหาที่ท่านกังวลมากที่สุดจากสถานการณ์น้ำท่วมคือ (เลือกตอบได้มากกว่า 1ข้อ)

 
ร้อยละ
เศรษฐกิจ และ พื้นที่ทำการเกษตรเสียหายประชาชนขาดรายได้
67.3
กลัวมีพายุฝนตกซ้ำเติมทำให้สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่แย่ลง
48.6
การเยียวยา และฟื้นฟู ผู้ประสบภัยในพื้นที่รับน้ำไม่เพียงพอกับความเสียหายที่เกิดขึ้น
44.2
ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
43.1
ปัญหาน้ำเน่าเสียในพื้นที่น้ำท่วมขังเป็นเวลานาน ทำให้เกิดโรคต่างๆ เช่น น้ำกัดเท้า ฉี่หนู
39.7
กลัวส่งผลกับเส้นทางคมนาคม ขนส่ง
34.5
sms ชาวบ้านริมฝั่งแม่น้ำและจังหวัดพื้นที่รับน้ำได้รับความเสียหายมากกว่าปี54
31.1
พื้นที่ท่องเที่ยวเสียหาย ส่งผลต่อการฟื้นฟูการท่องเที่ยวช่วงโควิดคลี่คลาย
30.2
กลัวจะประสบภัยหนาวทั้งๆที่น้ำยังไม่ลด
23.0
อื่นๆ อาทิ กลัวความช่วยเหลือล่าช้า กลัวของแพงขึ้น ฯลฯ
1.2
 
 
             5. ในภาพรวมปีนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการให้ข้อมูล/แจ้งเตือน/แนวทางการบริหารจัดการน้ำ
                  ได้ดีเพียงใด เมื่อเทียบกับประสบการณ์ที่ผ่านมา


 
ร้อยละ
ดีขึ้นกว่าเดิม
29.6
ดีเหมือนเดิม
32.4
แย่เหมือนเดิม
24.1
แย่ลงกว่าเดิม
13.9
รายละเอียดการสำรวจ
วัตถุประสงค์การสำรวจ:
                  เพื่อสอบถามความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการติดตามสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในปี 2565
ในด้านการให้ความสำคัญ ความเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้น รวมถึงปัญหาที่กังวลจากสถานการณ์
น้ำท่วมในปีนี้และภาพรวมของการทำงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าทำได้ดีเพียงใดเมื่อเทียบกับประสบการณ์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้เพื่อสะท้อนมุมมองความคิดเห็นของประชาชนให้สังคมและผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ
 
ประชากรที่สนใจศึกษา:
                  การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างจากประชาชนทุกภูมิภาคทั่วประเทศ โดยการสุ่มสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์
จากฐานข้อมูลของกรุงเทพโพลล์ ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple Random Sampling) แล้วใช้วิธีการถ่วงน้ำหนัก
ด้วยข้อมูลประชากรศาสตร์จากฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย
 
ความคลาดเคลื่อน (Margin of Error):
                  ในการประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน  4 ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
 
วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล:
                  ใช้การสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ (Enumeration by telephone) โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็น
แบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอนประกอบด้วยข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) จากนั้นจึงนำแบบสอบถาม
ทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล
 
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล:  : 18-21 ตุลาคม 2565
 
วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ: 27 ตุลาคม 2565
 
สรุปข้อมูลพื้นฐานของกลุ่มตัวอย่าง:
ตารางข้อมูลประชากรศาสตร์
 
จำนวน
ร้อยละ
เพศ:
   
             ชาย
502
47.4
             หญิง
557
52.6
รวม
1,059
100.0
อายุ:
 
 
             18 – 30 ปี
87
8.2
             31 – 40 ปี
151
14.3
             41 – 50 ปี
288
27.2
             51 – 60 ปี
289
27.3
             61 ปีขึ้นไป
244
23.0
รวม
1,059
100.0
การศึกษา:
 
 
             ต่ำกว่าปริญญาตรี
602
56.9
             ปริญญาตรี
352
33.2
             สูงกว่าปริญญาตรี
105
9.9
รวม
1,059
100.0
อาชีพ:
   
             ลูกจ้างรัฐบาล
156
14.7
             ลูกจ้างเอกชน
223
21.1
             ค้าขาย/ ทำงานส่วนตัว/ เกษตรกร
404
38.2
             เจ้าของกิจการ/ นายจ้าง
47
4.4
             ทำงานให้ครอบครัว
3
0.3
             พ่อบ้าน / แม่บ้าน / เกษียณอายุ
194
18.3
             นักเรียน/ นักศึกษา
21
2.0
             ว่างงาน
11
1.0
รวม
1,059
100.0
 
ติดตามกรุงเทพโพลล์ผ่าน twitter ได้ที่  twitter bangkokpoll
Download PDF file:  
 
ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์)    โทร. 02-407-3888 ต่อ 2897,2898